ทรานสฟอร์ม Healthcare ไทย รับมือวิกฤติโลก ด้วย Patient-enabled Healthcare

2025-05-11 19:38:27

Healthcare: ด่านหน้ารับวิกฤติเศรษฐกิจ

ท่ามกลางวิกฤติเศรษฐกิจโลกที่รุนแรงและต่อเนื่อง พร้อมกับปัญหาเชิงโครงสร้างภายในประเทศ ระบบสุขภาพไทยไม่อาจอยู่นิ่งได้อีกต่อไป เรากำลังอยู่ในยุคที่ “Healthcare” ไม่ใช่เพียงกลไกการรักษา แต่คือหนึ่งในแนวหน้าที่จะประคับประคองเศรษฐกิจไทยให้เดินต่อท่ามกลางความไม่แน่นอนรอบด้าน

วิกฤติเศรษฐกิจโลก: หนัก ยาว และซับซ้อน

เศรษฐกิจโลกกำลังเผชิญภาวะชะลอตัวควบคู่กับความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ทวีความรุนแรง ตั้งแต่สงครามการค้าระหว่างจีน–สหรัฐ ไปจนถึงความขัดแย้งในหลายภูมิภาค นี่ไม่ใช่วิกฤติชั่วคราว แต่คือการเปลี่ยนโครงสร้างโลกอย่างถาวร

ไม่ว่าความสัมพันธ์ระหว่างมหาอำนาจจะผ่อนคลายหรือกดดัน สิ่งที่ชัดเจนคือโลกกำลังเข้าสู่ยุคของ “การแบ่งขั้วอย่างถาวร” ที่ความร่วมมือกลายเป็นของหายาก อนาคตจึงไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่าใครใหญ่กว่า แต่ขึ้นอยู่กับว่าใคร “ปรับตัวได้เร็วกว่า”

กำลังซื้อด้านสุขภาพที่ลดลง

ความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจส่งผลโดยตรงต่อพฤติกรรมการใช้จ่ายด้านสุขภาพ:

  • ชาวต่างชาติชะลอการเข้ารับบริการ แม้ไทยยังดึงดูดผู้ป่วยต่างชาติได้หลายล้านคนต่อปี แต่รายได้กลับเติบโตต่ำกว่าคาดจากปัจจัยเศรษฐกิจและค่าเงิน
  • คนไทยใช้จ่ายอย่างระมัดระวัง ค่าครองชีพสูงสวนทางกับรายได้ ทำให้ผู้คนเลือกใช้บริการเฉพาะที่จำเป็น รายได้เฉลี่ยต่อผู้ป่วยจึงลดลง

ผลกระทบนี้ไม่ได้กระทบแค่ฝั่งผู้ป่วย แต่สะเทือนถึงผู้ให้บริการที่ต้องเร่งปรับตัวสู่แนวทางที่เข้าถึงง่ายขึ้น และ ให้ผู้ป่วยมีบทบาทมากขึ้นในระบบ

ต้นทุนพุ่ง-ของขาด-ระบบสะดุด

สงครามการค้าและมาตรการกีดกันส่งผลให้ซัพพลายเชนทั่วโลกสะดุด:

  • เวชภัณฑ์ขาดตลาด ราคานำเข้าเพิ่มขึ้นจากภาษีและค่าขนส่ง
  • ค่าแรงและโลจิสติกส์พุ่ง กระทบต่อการผลิตและบริการในประเทศ

ต้นทุนเหล่านี้ทำให้บริการด้านสุขภาพมีราคาแพงขึ้น แต่ไม่ได้เพิ่มคุณค่าให้ผู้ป่วยเท่าที่ควร ซึ่งตอกย้ำว่าระบบที่เน้นเฉพาะ back-office หรือภายในอย่างเดียว ไม่เพียงพออีกต่อไป

กำลังคน = ต้นทุนคงที่ที่ขยับไม่ได้

แม้รายได้ผันผวน แต่ค่าตอบแทนบุคลากรทางการแพทย์กลับสูงขึ้นต่อเนื่อง จากปัญหา burnout และการแข่งขันด้านแรงงาน ทำให้หลายโรงพยาบาลต้องเพิ่มค่าตอบแทนเพื่อรักษาทีมงานไว้

ในขณะเดียวกัน รายได้เฉลี่ยต่อผู้ป่วยกลับลดลง โครงสร้างต้นทุนจึงเปราะบางอย่างยิ่ง โรงพยาบาลต้องหาทางลดภาระงานที่ไม่จำเป็น เพื่อให้คนที่มีอยู่ได้ใช้เวลาไปกับงานที่สร้างคุณค่าจริง — โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับ ผู้ป่วยที่พร้อมมีบทบาทในกระบวนการดูแลของตัวเอง

ต้นทุนแฝง & โอกาสที่สูญเสีย

ในแต่ละวัน โรงพยาบาลต้องเผชิญกับต้นทุนที่ไม่ได้อยู่ในบัญชีแยกประเภท แต่กัดกินทรัพยากรอย่างต่อเนื่อง ทั้งจากกระบวนการที่ไม่มีประสิทธิภาพ ไปจนถึงการขาดข้อมูลที่ใช้ตัดสินใจ

  • สต๊อกจม: ยา เวชภัณฑ์ และอุปกรณ์ทางการแพทย์หลายชนิดล้นคลังในบางจุด แต่กลับขาดแคลนในอีกจุดหนึ่ง เกิดของเสียสูงและบริการสะดุด

  • งานซ้ำซ้อน: หลายแผนกยังต้องทำงานซ้ำด้วยมือจากระบบที่ไม่เชื่อมต่อกัน เสียเวลา เสี่ยงผิดพลาด และเปลืองแรงคน

  • ขาดข้อมูล real-time: ทำให้การบริหารจัดการล่าช้า ทั้งในเรื่องเวรแพทย์ เตียงว่าง เวชภัณฑ์ หรือแม้แต่ต้นทุนต่อผู้ป่วยแต่ละราย

ต้นทุนเหล่านี้อาจไม่ปรากฏในรายงานทางการเงิน แต่คือโอกาสที่สูญเสียไปทุกวัน และสะท้อนความจำเป็นของการบริหารแบบมีข้อมูลนำทาง (data-driven)

ทางรอด: จาก Efficiency สู่ Engagement

ถึงเวลาเปลี่ยน “วิกฤติ” ให้เป็นโอกาสในการออกแบบระบบใหม่ ด้วยเทคโนโลยีที่:

  • Lean กระบวนการ ลดงานซ้ำ เพิ่มประสิทธิภาพทุกแผนก
  • เชื่อมต่อข้อมูลแบบ real-time เพื่อการบริหารที่แม่นยำ
  • เปิดให้ผู้ป่วยเข้ามามีบทบาท ตั้งแต่ติดตามสุขภาพ นัดหมาย รับคำแนะนำ ไปจนถึงสื่อสารกับทีมแพทย์

นี่ไม่ใช่แค่การเพิ่มประสิทธิภาพ แต่คือการเปลี่ยน "โรงพยาบาล" ให้กลายเป็น ระบบที่ทำงานร่วมกับผู้ป่วย ไม่ใช่แค่ทำงานให้ผู้ป่วย

ก้าวข้ามจาก HIS สู่ Patient-enabling Hospital Platform

HIS คือระบบที่ออกแบบมาเพื่อให้เจ้าหน้าที่ทำงานง่ายขึ้น แต่ในยุคที่ผู้ป่วยมีสมาร์ตโฟนและต้องการมีส่วนร่วม HIS เพียงอย่างเดียวไม่เพียงพออีกต่อไป

โรงพยาบาลต้องก้าวไปสู่ Hospital Platform — ระบบปฏิบัติการที่รวม HIS, Mobile App และ Data Analytics ไว้ด้วยกัน เพื่อให้ข้อมูลไหลลื่นทั้งในและนอกโรงพยาบาล

  • เชื่อมหน่วยงานกับผู้ป่วยเป็นระบบเดียว
  • ให้ทีมแพทย์ใช้ข้อมูลแบบ real-time
  • Lean จุดที่ต้นทุนสูง เช่น ห้องผ่าตัดและคลังยา
  • ลดงาน routine ด้วย iPad / Tablet
  • ขยายหรือควบรวมได้ง่ายในอนาคต

"Hospital Platform" ไม่ใช่แค่เทคโนโลยี แต่คือ แนวคิดใหม่ ที่วางผู้ป่วยไว้ตรงกลาง และออกแบบระบบให้ทุกฝ่ายในโรงพยาบาลทำงานร่วมกันได้ดีขึ้น

อยู่รอดในอนาคต เริ่มจากลงทุนวันนี้

ภาคบริการสุขภาพยังมีศักยภาพเติบโต แม้ในวันที่เศรษฐกิจผันผวน โรงพยาบาลที่กล้าปรับตัวก่อน จะสามารถรับมือกับต้นทุนที่สูงขึ้น พฤติกรรมผู้ป่วยที่เปลี่ยนไป และสร้างโอกาสการเติบโตได้แม้ในวิกฤติ

การลงทุนในระบบ กระบวนการ และเทคโนโลยีที่ “เปิดรับผู้ป่วยเป็นผู้ใช้” ไม่ใช่แค่ตอบโจทย์ปัจจุบัน แต่คือการวางรากฐานให้ระบบสุขภาพไทยแข็งแรงพอจะพาเศรษฐกิจไทยรอดในระยะยาว

เพราะในวันที่โลกเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน ระบบสุขภาพที่เข้มแข็ง เชื่อมโยง และร่วมมือกับผู้ป่วย คือสิ่งที่มั่นคงที่สุด